บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมจากสนง. ทั้งหมด 4 โครงการ ดังนี้
โครงการที่ 1 (2554) ประเภท 5.5 กิจการผลิตชิ้นส่วนและหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฯ (ประกอบ)
- เปิดดำเนินการแล้ว 8 ก.พ. 2559
โครงการที่ 2 (2556) ประเภท 5.5 กิจการผลิตชิ้นส่วนและหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ฯ (ฉีด)
- เปิดดำเนินการแล้ว 13 มี.ค. 2560
โครงการที่ 3 (2557) ประเภท 7.12 กิจการศูนย์จัดหาจัดซื้อชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์ระหว่างประเทศ (IPO/ITC)
- ครบเปิดดำเนินวันที่ 10 ต.ค. 2562 (ขอขยายครั้งที่ 2)
โครงการที่ 4 (2560) ประเภท 5.4.3.2 กิจการผลิตชิ้นส่วนผลิตภัณฑ์สำหรับอุปกรณ์โทรคมนาคมอื่น ๆ (ประกอบ)
- ขอ Max Stock วัตถุดิบแล้ว (ยังไม่มีการนำเข้า)
- ขอ Stock เครื่องจักรแล้ว (นำเข้าเครื่องจักรแล้ว เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 2560)
คำถาม สำหรับโครงการที่ 4 ดังนี้ครับ
1. เมื่อรายงานความคืบหน้าโครงการ ครบ 2 ปี แต่บริษัทฯ ยังไม่ได้เริ่มการผลิต บริษัทฯ ต้องทำอย่างไร
2. เครื่องจักร โครงการที่ 4 สามารถ โอนและหรือย้ายนำมาใช้ในโครงการที่ 1 ได้หรือไม่
3. ภาษีอากร(Tax) และภาษมูลค่าเพิ่ม(Vat) ที่บริษัทฯ ขอคืนแล้ว (ตอนนำเข้าสงวนสิทธิฯ และขอคืนภายหลัง) ต้องทำอย่าไร
4. กรณี บริษัทฯ จะยกเลิกโครงการฯ ต้องทำอย่างไรบ้าง เช่น การแจ้งยกเลิกโครงการฯ Max Stock วัตถุดิบ,เครื่องจักร เป็นต้น
ตอบคำถามในส่วนของโครงการที่ 4 ดังนี้ครับ
1.หากจะดำเนินการโครงการต่อ ก็ปฏิบัติตามเงื่อนไขในบัตร คือ เปิดดำเนินการภายใน 36 เดือนนับจากวันที่ออกบัตร หรือขยายเวลาเปิดดำเนินการออกไปได้ 3 ครั้ง
แต่หากจะไม่ดำเนินการต่อ ก็ยื่นขอยกเลิกโครงการ และชำระภาษีอากรขาเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบตามหลักเกณฑ์
2.โครงการที่ 1 เปิดดำเนินการเต็มโครงการแล้ว แต่เนื่องจากเป็นกิจการอิเล็กทรอนิกส์จึงสามารถนำเข้าเครื่องจักรมาทดแทน ปรับปรุง หรือเพิ่มกำลังผลิตได้
การจะโอนเครื่องจักรของโครงการที่ 4 ไปใช้ในโครงการที่ 1 จะต้องพิสูจน์ว่าเครื่องจักรนั้นไม่เคยใช้งานเชิงพาณิชย์ และคงต้องพิจารณาเป็นกรณีๆไป
3.หากยกเลิกโครงการที่ 4 ต้องชำระอากรขาเข้าเครื่องจักรคืนตามหลักเกณฑ์
4.การยกเลิกบัตรส่งเสริม ให้ยื่นขอชำระภาษีอากรเครื่องจักรและวัตถุดิบที่นำเข้าโดยใช้สิทธิ จากนั้นจึงยื่นคำร้องขอยกเลิกบัตรส่งเสริม ครับ
ขอบคุณครับ