สวัสดีค่ะ

จะสอบถามเกี่ยวกับระยะเวลาในการอนุมัติ "สูตรการผลิตและปริมาณสูงสุด(Max Stock)" ค่ะ โดยปกติแล้วใช้เวลาในการพิจารณาอนุมัติ 30 วันทำการใช่หรือไม่ค่ะ???

การอนุมัติบัญชีปริมาณสต๊อกสูงสุด เป็นงานที่พิจารณาโดย BOI ซึ่งตามระเบียบ BOI ที่ 1/2553 กำหนดระยะเวลาพิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วันทำการ

หลังจากได้รับอนุมัติแล้ว บริษัทต้องคีย์ข้อมูลใน diskette และนำไปยื่นที่สมาคม IC เพื่อตรวจสอบความถูกต้อง และบันทึกเข้าระบบครับ

ในกรณีที่ยื่นขออนุมัติเกินกว่า30วันทำการ แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ จะต้องติดต่อฝ่ายใดค่ะ

ถ้าเป็นเหตุการณ์ปกติ ก็เช็คสถานะของงานจากระบบตรวจสอบเอกสาร doctracking.boi.go.th ว่างานของบริษัทอยู่กับ จนท คนไหน และติดต่อกับ จนท โดยตรง

แต่ใน 2 สัปดาห์นี้ BOI ที่กรุงเทพ ไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติงาน จึงให้ปฏิบัติงานที่บ้าน หรือนัดหมายชี้แจงงานกับบริษัทที่ OSOS หรือ IC เป็นกรณีๆ ไป

กรณีที่งานพ้นกำหนดมาเป็นเวลานาน สามารถติดต่อกับ จนท ทางอีเมล์ เพื่อสอบถามความคืบหน้า หรือประเด็นที่บริษัทต้องชี้แจงเพิ่มเติม ฯลฯ

ในบางกรณี จนท อาจไม่สามารถนำเอกสารต้นเรื่องออกจาก BOI เพื่อมาทำงานที่บ้านได้ทัน ก็อาจต้องมีการนัดหมายกับ จนท ว่า จะให้ยื่นสำเนาที่เคยมีการลงรับไว้แล้ว หรือจะให้ดำเนินการด้วยวิธีใด

อีเมล์ของ จนท ตรวจสอบได้จาก เว็บไซต์ BOI เข้าไปที่หัวข้อ "เกี่ยวกับบีโอไอ >> BOI Directory" และค้นหาตามชื่อ หรือตามสำนัก หรือจะใช้วิธีสอบถามจากเบอร์โทรหรืออีเมล์ ที่ BOI ประกาศไว้ก็ได้ คือ

• สำนัก 1 โทร 081 174 4134, 081 174 4128 email: sector1@boi.go.th
• สำนัก 2 โทร 081 174 4135, 081 867 4865 email: sector2@boi.go.th
• สำนัก 3 โทร 081 832 0280, 081 174 4123 email: sector3@boi.go.th
• สำนัก 4 โทร 081 832 0281, 081 174 4115 email: sector4@boi.go.th

รบกวนสอบถามค่ะ ในการยื่นปริมาณสต๊อกระบบ RMTS-2011 ในกรณีที่บริษัทซื้อจากบริษัทภายในประเทศที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน(ฺBOI) บริษัทจะต้องยื่นเรื่องปริมาณสต๊อกโดยต้องใส่ V นำหน้าหมายเลขหรือว่ากำหนดปริมาณสต๊อกเป็น 0 ใช่มั้ยค่ะ และบริษัทจะต้องตั้งชื่อหลักและชื่อรองอย่างไรคะ รบกวนสอบถามนะคะ (ในกรณีที่บริษัทไม่ได้นำเข้าวัตถุดิบเองค่ะ)แต่ส่งขายให้กับบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
 

1. ในระบบ RMTS-2011 การขอบัญชีรายการวัตถุดิบที่จะซื้อจาก Vendor ในประเทศ ให้ใช้ Grp_No เป็นเลข 6 หลักตามปกติ เช่น 000001 ไม่ต้องใส่ V ข้างหน้า การใส่อักษรข้างหน้า มีเฉพาะ R คือสินค้าที่นำเข้ามาซ่อมแซมเพื่อส่งกลับออกไปเท่านั้น เช่น R00001
2. กรณีที่ซื้อวัตถุดิบจาก Vendor BOI ในประเทศ ปกติจะแนะนำให้บริษัทขอ Max Stock รายการนั้นเป็น 0 เพื่อให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจว่า นั่นคือรายการที่ต้องโอนสิทธิไปให้ Vendor ทั้งหมด
   แต่หากบริษัทคิดว่าในอนาคตอาจมีการนำเข้าวัตถุดิบนั้น จะขอ Max Stock ตามปกติก็ได้
   หรือจะขอเป็น 0 ไปก่อน แล้วค่อยขอแก้ไขปริมาณสต็อกในภายหลังเมื่อจำเป็นก็ทำได้เช่นกัน
3. การตั้งชื่อหลัก ให้ใช้ชื่อสามัญของวัตถุดิบนั้น ส่วนชื่อรองให้ใช้เป็นชื่อผลิตภัณฑ์ที่ Vendor ยื่นขออนุมัติสูตรการผลิตไว้
   ยกตัวอย่าง บริษัท A ซื้อ Stepping Motor / Model 123 มาจาก Vendor ในประเทศ คือบริษัท B
   บริษัท A จะตั้งชื่อหลักเป็น Motor ตั้งชื่อรองเป็น Stepping Motor และเวลาจะโอนสิทธิตัดบัญชี จะระบุ Ven_Model เป็น 123
   ส่วนบริษัท B ก็จะขออนุมัติสูตรโดยมีรุ่น Model เป็น 123 และมี Model_Desc (ชื่อสินค้า) เป็น Stepping Motor ครับ

เรียน แอดมิน

บริษัทฯ ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานแล้ว และจะดำเนินการทำบัญชีปริมาณสต็อคสูงสุดแต่มีคำถามขอสอบถามค่ะ

* กรณีที่บริษัทฯ ผลิตชิ้นงานเพื่อใช้เองภายในบริษัทบางส่วน และจำหน่ายด้วย บริษัทเกรงว่าถ้าผลิตแล้วนำมาใช้เอง

จะทำให้สต็อกหมุนเวียนของวัตถุดิบมีปัญหา เพราะสต็อกหมุนเวียนจะไม่พอกับการใช้งาน บริษัทอยากทราบว่าแบบนี้ตอนเราทำบัญชี

ปริมาณสต็อกฯ เราควรทำอย่างไรคะเพื่อจะสต็อกฯ หมุนเวียนจะได้พอกับการใช้งานคะ รบกวนขอคำแนะนำค่ะ

ข้อมูลไม่พอที่จะให้คำแนะนำ

ในบัตรส่งเสริมระบุชนิดผลิตภัณฑ์และขนาดกิจการไว้อย่างไร

ช่วยยกตัวอย่างเป็นชื่อสมมุติ ก็ได้ครับ

เรียน แอดมิน

ข้อมูลของบริษัทมีดังนี้ค่ะ 

*  บริษัทได้รับการส่งเสริมจากสำนักงาน จำนวน 2 โครงการ คือ ได้รับการส่งเสริมในกิจการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และได้ขอรับการส่งเสริมการลงทุนขยายกิจการผลิตแผ่นเซรามิกส์ สำหรับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มอีก 1 โครงการ (ได้รับการแจ้งมตืให้การส่งเสริมแล้ว อยู่ระหว่างการขอรับบัตรส่งเสริม)

* บริษัทจึงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขอบัญชีปริมาณสต็อคตามคำถามข้างต้น เนื่องจากผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ในโครงการขยายส่วนหนึ่งบริษัทนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตของโครงการแรก ซึ่งถ้าหากบริษัทนำชิ้นงานมาใช้ในการผลิตเองแล้วจะทำให้สต็อกของวัตถุดิบไม่มีมาหมุนเวียนเพื่อใช้งาน (ไม่ได้นำใบขนมาตัดบัญชี) เพราะไม่ได้ผลิตและทำการจำหน่ายออกไปทั้งหมดค่ะ

รบกวนขอคำแนะนำค่ะว่าบริษัทควรทำอย่างไร เพื่อให้มีสต็อกหมุนเวียนเพียงพอสำหรับการใช้งาน ขอบคุณค่ะ

ขอเปลี่ยนตัวอย่างให้ชัดเจนดังนี้

บริษัทได้รับส่งเสริม 2 โครงการ
โครงการที่ 1 ผลิตสินค้า A ปีละ 1 ล้านชิ้น เพื่อส่งออก 5 แสนชิ้น และจำหน่ายในประเทศ 5 แสนชิ้น
โครงการที่ 2 ผลิตสินค้า B ปีละ 2 ล้านชิ้น เพื่อส่งออก 1 ล้านชิ้น และเพื่อใช้ในการผลิตสินค้า A 1 ล้านชิ้น 

ตอบคำถาม

1.โครงการที่ 2 สามารถขอ Max Stock ได้เท่ากับกำลังผลิต 6 เดือนคือ 1 ล้านชิ้น
2.วัตถุดิบที่โครงการที่ 2 จะสามารถนำเข้าโดยใช้สิทธิยกเว้นอากรตามมาตรา 36 จะต้องใช้เพื่อผลิตส่งออกเท่านั้น
3.หากโครงการที่ 2 จำหน่ายให้กับโครงการที่ 1 ปีละ 1 ล้านชิ้น แต่โครงการที่ 1 นำไปผลิตจำหน่ายในประเทศ 5 แสนชิ้น
โครงการที่ 2 จะต้องไม่ใช้สิทธิยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบ สำหรับส่วนที่โครงการที่ 1 นำไปผลิตจำหน่ายในประเทศ 5 แสนชิ้นนี้ ครับ

เรียน แอดมิน

ขอบคุณมากค่ะ