สวัสดีค่ะ
รบกวนสอบถามค่ะว่า ปัจจุบันบริษัท ใช้สิทธิประโยชน์ IPO ไปว่าจ้างผลิต โดยให้ใช้วัตถุดิบของบริษัท ฯ
ต้นปีหน้าบริษัท ฯ มีแผนว่าจะเปลี่ยนไปใช้ เป็น ITC แทน บริษัทฯ ขอสอบถาม 2 แบบ ดังนี้ค่ะ
1. ถ้าบริษัทฯ ได้รับอนุมัติ เปลี่ยนจาก IPO เป็น ITC และได้รับอนุมัติให้ไปว่าจ้างบริษัท A (ไม่เป็น BOI) ผลิตผลิตภัณฑ์เดิมได้
(บริษัท A เป็นบริษัทฯ เดิมที่เคยว่าจ้างตอนเป็น IPO) ซึ่งตอนเป็น IPO บริษัท ฯได้นำวัตถุดิบไปไว้ที่ A เพื่อทำการผลิต
ระหว่างที่รอ BOI อนุมัติเป็น ITC วัตถุดิบที่อยู่ที่บริษัท ฯ A ก็สามารถนำมาใช้ผลิตได้อย่างต่อเนื่องใช่ไหมคะ โดยไม่ต้องแจ้งใด ๆกับ BOI
และ Investor Club Association หรือ ต้องมีการหยุดใช้วัตถุดิบและหยุดนำเข้าก่อน BOI อนุมัติ ITC คะ ? ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ
2. ถ้าบริษัท ฯ ยื่น ITC แบบไม่ว่าจ้างผลิต แต่ให้ A นำเข้าวัตถุดิบเข้ามาเอง ระหว่างที่รออนุมัติวัตถุดิบบางส่วนที่ทางบริษัท ฯ เอาไปให้
ผลิตที่ค้างที่ A (ตอนเป็น IPO) , บริษัท ฯ สามารถให้ A ผลิตวัตถุดิบที่เหลือนั้น แล้วส่งออกมาตัดบัญชีได้หรือไม่ บริษัท ฯ ต้องปฏิบัติอย่างไร
ต้องหยุดการใช้วัตถุดิบที่เคยนำเข้า ภายใต้ IPO ทุกอย่างหรือไม่ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
1. การอนุญาตเรื่องการใช้สิทธิต่างๆ เช่น การนำวัตถุดิบไปว่าจ้างผลิต หรือนำไปเก็บนอกสถานที่ เป็นการอนุมัติตามเลขที่บัตรส่งเสริม ไม่ได้ผูกติดกับประเภทกิจการ
ดังนั้น หากบริษัทแก้ไขกิจการจาก IPO เป็น ITC โดยยังคงได้รับอนุญาตให้ทำว่าจ้างผลิต สิทธิต่างๆเกี่ยวกับการนำวัตถุดิบไปว่าจ้าง ตามที่เคยขออนุญาตไว้ ก็ยังคงใช้ต่อเนื่องไปได้ ไม่ต้องขอใหม่ เพราะยังเป็นเลขที่บัตรส่งเสริมฉบับเดิม
2. หากบริษัทจะขอเปลี่ยนประเภทกิจการเป็น ITC โดยจะไม่ทำการว่าจ้าง แต่เปลี่ยนเป็นการซื้อจากบริษัท A
วัตถุดิบที่ยังค้างอยู่กับ A ก็ต้องเรียกคืนกลับมาทั้งหมด และจะว่าจ้างให้ A ผลิตไม่ได้ ตั้งแต่วันที่มีผลตามที่ระบุในหนังสืออนุมัติ
การแก้ไขอย่างนี้เป็นโทษ ไม่เป็นคุณ ไม่น่าจะยื่นแก้ไขแบบนี้ครับ
ขอบคุณมากค่ะ ขอรบกวนขยายความการแก้ไขแบบนี้เป็นโทษไม่เป็นคุณ หมายความว่าอย่างไรคะ
ขอบคุณค่ะ
หมายความว่า โครงการเดิมมีขั้นตอนการว่าจ้างอยู่แล้ว หากจะตัดทิ้งไป โดยเปลี่ยนเป็นการซื้ออย่างเดียว อาจทำให้เกิดการขาดตอนระหว่างที่ขออนุมัติ
เนื่องจาก ITC สามารถมีขั้นตอนว่าจ้างได้ กรณีนี้จึงน่าจะขอเปลี่ยนประเภทกิจการจาก IPO เป็น ITC และแก้ไขลักษณะการดำเนินธุรกิจคือ บางส่วนเป็นการว่าจ้างตามที่อนุมัติอยู่เดิม และบางส่วนซื้อจากซัพพลายเออร์ น่าจะทำให้คล่องตัวกว่า และไม่เกิดช่วงรอยต่อระหว่างที่ขออนุมัติครับ
ขอบคุณมากค่ะ
ยินดีครับ