สืบเนื่องจาก บริษัทฯ มีความประสงค์ที่จะขอเพิ่มเติมบริษัทใน Work permit
โดยชื่อบริษัทที่ต้องการเพิ่มเป็นบริษัทของลูกค้า
โดยในกรณีนี้บริษัทฯ มีการทำสัญญากับบริษัทลูกค้าผู้ผลิตสินค้าสำเร็จรูป
จึงรบกวนสอบถามข้อมูลดังนี้ค่ะ
1. บริษัทฯ แม่ที่ประเทศญี่ปุ่นต้นสังกัดของพนักงานชาวญี่ปุ่น
มีการถือหุ้นในบริษัทลูกค้า ที่พนักงานจะเพิ่มชื่อบริษัท
และเซ็นต์สัญญาทำงานกับบริษัทด้วยประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์
ในกรณีนี้ BOI มีเกณฑ์พิจารณาเรื่องสัดส่วนผู้ถือหุ้นหรือไม่
ถ้ามี รายละเอียดสัดส่วนเป็นอย่างไรบ้างคะ
2. บริษัทฯ สามารถยื่นคำร้องในระบบ Single Window เพื่อเพิ่มชื่อบริษัทลูกค้าใน Digital Work Permit ได้ไหมคะ
2.1 ถ้าได้ บริษัทต้องใช้เอกสารอะไรประกอบในการยื่นคำร้องบ้างคะ
2.2 ถ้าไม่ได้ บริษัทฯ สามารถใช้สัญญาโครงการระหว่างทั้ง 2 บริษัทฯ
ยื่นแสดงต่อเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน เมื่อมีการตรวจสอบได้ไหมคะ
3. ถ้าสามารถใช้สัญญาที่ทำไว้ระหว่าง 2 บริษัทฯ ได้
ในสัญญาจำเป็นต้องระบุชื่อเป็นรายบุคคล (ชื่อคนต่างชาติ) ในสัญญา
หรือสามารถใช้สัญญาที่เป็นชื่อระหว่างบริษัทฯ ได้ ค่ะ
รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
บริษัท ............
ตอบคำถามดังนี้
1. หลักเกณฑ์การพิจารณาของ BOI ในการขออนุญาตให้คนต่างชาติปฏิบัติงานเพิ่มเติมที่บริษัทอื่น
มีหลักเกณฑ์คือ ต้องเป็นการปฏิบัติงานที่บริษัทในเครือเดียวกันเท่านั้น
ตามนิยามของ BOI ความสัมพันธ์บริษัทในเครือเดียวกัน กำหนดไว้ดังนี้
- ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนเกินกว่ากึ่งจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคลหนึ่ง เป็นผู้ถือหุ้นหรือหุ้นส่วนเกินกว่ากึ่งจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่ง
- ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคลหนึ่งมีมูลค่าเกินกว่าร้อยละห้าสิบของทุนทั้งหมดถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่งที่มีมูลค่าเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนทั้งหมด
- นิติบุคคลหนึ่งถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่งเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนทั้งหมด หรือของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้ว ในกรณีที่บริษัทแรกและ/หรือบริษัทในเครือบริษัทเดียวหรือหลายบริษัทหรือบริษัทแรกและ/หรือบริษัทในเครือในลำดับชั้นแรก และ/หรือในชั้นต่อๆ ไป บริษัทเดียวหรือหลายบริษัทถือหุ้นของบริษัทใดมีจำนวนรวมกันเกินกว่าร้อยละ 50 ของหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วให้ถือว่าบริษัทนั้นเป็นบริษัทในเครือของบริษัทแรกด้วย
- บุคคลเกินกว่ากึ่งจำนวนกรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งมีอำนาจจัดการในนิติบุคคลหนึ่งเป็นกรรมการหรือเป็นผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งมีอำนาจจัดการในอีกนิติบุคคลหนึ่ง
- บริษัทหนึ่งมีอำนาจควบคุมเกี่ยวกับการแต่งตั้งและถอดถอนกรรมการซึ่งมีอำนาจจัดการทั้งหมด หรือ โดยส่วนใหญ่ของอีกบริษัทหนึ่ง
- นิติบุคคลใดจะอยู่ในเครือกับบุคคลอื่นเมื่อนิติบุคคลนั้นควบคุมหรือถูกควบคุมโดยบุคคลอื่น "ถูกควบคุม" หมายความว่า ถูกควบคุมโดยบุคคลของสมาชิกหากบุคคลนั้นมีอำนาจในการเสนอชื่อกรรมการส่วนใหญ่ หรือเป็นผู้มีอำนาจโดยถูกต้องตามกฎหมาย ในการกำกับการดำเนิการของบริษัทหรือเมื่อทั้งสองผ่านถูกควบคุมโดยบุคคลคนเดียวกัน
2. หากเข้าข่ายข้อใดข้อหนึ่งตามนิยามข้างต้น ถือว่าเป็นบริษัทในเครือ
สามารถขอยื่นเพิ่มสถานที่ทำงานต่อ BOI ผ่านระบบ Single Window Visa and Work Permit ได้
โดยใช้เอกสาร เช่น หนังสือรับรองบริษัทของบริษัทในเครือ บัญชีผู้ถือหุ้น และแผนผัง Organization Chart เป็นต้น
3. หากไม่เข้าข่ายบริษัทในเครือ ไม่สามารถยื่นขอเพิ่มสถานที่ทำงานต่อ BOI ได้
4. กรณีที่ไม่เข้าข่ายเงื่อนไข BOI แต่จำเป็นต้องเพิ่มสถานที่ทำงาน
อาจติดต่อปรึกษากรมการจัดหางานโดยตรงว่า
หากยกเลิก Work Permit ตามสิทธิ BOI แล้วยื่นขอ Work Permit ตามขั้นตอนต่อกรมการจัดหางาน
จะสามารถเพิ่มสถานที่ทำงาน ตามขอบเขตอำนาจของกรมการจัดหางาน ได้หรือไม่ ครับ
บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนสอบถามเกี่ยวกับการยื่นขอขยายระยะเวลาผู้บริหารต่างชาติของบริษัทฯ 1 ท่าน ดังนี้ค่ะ
ผู้บริหารชาวญี่ปุ่น ดำรงตำแหน่ง GENERAL MANAGER (REGIONAL FINANCIAL CONTROL) ณ บจก. A
และดำรงตำแหน่ง Director ณ บริษัทในเครืออีก 5 บริษัทฯ (A1, A2, A3, A4, A5)
แต่เนื่องจาก บริษัท A5 ได้จดทะเบียนยกเลิกบริษัทฯ ไปเมื่อเดือน เมษายน 2565
แต่เนื่องด้วยผู้บริหารดังกล่าวยังคงต้องประสานงานด้านบัญชี/การเงิน/ภาษีต่างๆ ของบริษัท A5 อยู่จนกว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น
ดังนั้น กรณีที่บริษัทฯ จะดำเนินการขยายระยะเวลาการอยู่ต่อให้ผู้บริหารท่านนี้ ถึงเดือนสิงหาคม
บริษัทฯ สามารถยื่นขยายบริษัทในเครือ (บริษัท A5) ให้กับผู้บริหารท่านนี้ได้หรือเปล่าคะ
โดยหลังจากที่ได้ดำเนินการเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงิน, ส่งให้ผู้ตรวจสอบบัญชีรับรอง, จดทะเบียนเสร็จชำระบัญชี เป็นต้น
บริษัทฯ จะดำเนินการยื่นคำร้องขอยกเลิกบริษัทในเครือให้กับผู้บริหารดังกล่าวต่อไปค่ะ
ขอบพระคุณมากค่ะ
บจก. .......
ขอลำดับข้อมูล และตอบคำถามดังนี้
1. ปัจจุบัน GM ของบริษัท A ได้รับอนุญาตให้เพิ่มสถานที่ทำงาน ในตำแหน่ง Director ที่บริษัทในเครือ 5 บริษัท (A1-A5)
ซึ่งบริษัทในเครือทั้ง 5 บริษัทนี้ จะเป็นบริษัทที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI หรือไม่ก็ได้
โดยระยะเวลาการอนุญาตให้อยู่/ทำงานในประเทศในทุกบริษัท จะยึดตามสิทธิที่ GM ได้รับอยู่เดิมภายใต้บริษัท A
2. บริษัท A5 ได้ยื่นจดทะเบียนยกเลิกบริษัทแล้วเมื่อเดือนเมษายน
ดังนั้น จึงควรแจ้ง BOI ขอแก้ไขสถานที่ทำงานเพิ่มเติม เพื่อตัดให้เหลือเพียง A1-A4
แต่บริษัทแจ้งว่า GM ดังกล่าว ต้องอยู่ปฏิบัติงานเพื่อประสานงานด้านบัญชี/ชำระภาษี ฯลฯ ของบริษัท A5 จนถึงเดือนสิงหาคม
3. แอดมินเข้าใจว่า ตามกฏหมายที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีการจดทะเบียนยกเลิกบริษัท
กรรมการของบริษัท จะมีสถานะเป็นผู้ชำระบัญชี และยังคงมีอำนาจตามที่มีอยู่เดิม
ดังนั้น หาก GM ดังกล่าวมีสถานะเป็นกรรมการบริษัท A5 และเปลี่ยนสถานะเป็นผู้ชำระบัญชี ตามหนังสือรับรองบริษัท
ก็น่าจะอยู่ในข่ายที่จะขอเพิ่ม/แก้ไขสถานที่ทำงานได้
โดยเปลี่ยนตำแหน่งจาก Director ของ A5 เป็นผู้ชำระบัญชี ของ A5
และสามารถอยู่/ปฏิบัติงานในตำแหน่งนี้ได้ จนจบกระบวนการชำระบัญชี หรือจนกว่าจะพ้นสถานะผู้ชำระบัญชี
แต่ไม่เกินระยะเวลาตามสิทธิเดิมของ GM ในบริษัท A
4. เมื่อการชำระบัญชีเสร็จสิ้น หรือพ้นจากสถานะผู้ชำระบัญชี
จึงยื่นขอแก้ไขสถานที่ทำงานอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยกเลิกสถานที่ทำงานในส่วนของ A5 ต่อไปครับ