FAQ108 108 คำถามเพื่อการลงทุน

BOI
กรมศุลกากร
KM-IC
หลักสูตรฝึกอบรม BOI, IC, ศุลกากร
one-on-one Training
in-house Training
IC counter service
counter service

108 คำถามกับงาน BOI / เครื่องจักร / การจำหน่าย โอน บริจาคเครื่องจักร
การจำหน่ายเครื่องจักรที่นำเข้าโดย BOI
1 - 15 จาก 15 คำตอบ
page: 1/1
GUEST เมื่อ 26 เมย 65, 17:16 น.

ทางบริษัท มีการนำเข้าเครื่องจักร ภายใต้สิทธิ BOI เมื่อปี 2012

และมีความประสงค์ที่จะทำการจำหน่ายเครื่องจักร เนื่องจากเครื่องจักรมีแนวโน้มการเสื่อมสภาพ

และต้องการซื้อเครื่องจักรใหม่ ภายในประเทศ ที่เป็นเครื่องที่ใช้ในกระบวนการเดียวกันมาทดแทน

บริษัทต้องทำอยากได้บ้างคะ ต้องเสียภาษีนำเข้าย้อนหลังหรือไม่คะ

และทางบริษัทเปิดใบแจ้งหนี้ขายโดยมีภาษีมูลค่าเพิ่มใช่หรือไม่คะ

 

บริษัท Su...

ADMIN เมื่อ 26 เมย 65, 19:06 น. #1

1. การขอจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ ให้ยื่นขออนุมัติผ่านระบบ eMT

หากเป็นเครื่องจักรที่นำเข้ามาแล้วเกิน 5 ปี จะอนุญาตให้จำหน่ายได้ โดยไม่มีภาระภาษี

2. กรณีเครื่องจักรที่จำหน่าย เป็นเครื่องจักรหลัก

จะต้องระบุด้วยว่าจะมีการซื้อเครื่องจักรใหม่มาทดแทนหรือไม่

หากไม่มีการซื้อมาทดแทน ต้องขอลดกำลังผลิตหรือแก้ไขกรรมวิธีการผลิต ให้สอดคล้องกับเครื่องจักรที่เหลืออยู่จริง

3. กรณีซื้อเครื่องจักรทดแทน จากในประเทศ ต้องเป็นเครื่องจักรใหม่เท่านั้น

หากเป็นเครื่องจักรเก่าจากต่างประเทศ ต้องอายุไม่เกิน 5 ปี และมีใบรับรองประสิทธิภาพ แม้จะนำเข้ามาปรับปรุงโดยไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีอากรก็ตาม

4. การจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ ต้องเรียกเก็บ vat ด้วยตามปกติ

5. รายได้จากการจำหน่ายเครื่องจักร เป็นรายได้ที่สามารถขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ตามสิทธิที่เหลืออยู่
แต่กรณีที่สอบถาม น่าจะสิ้นสุดสิทธิระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้ไปแล้ว ครับ

NTCCC เมื่อ 6 กค 65, 14:56 น. #2

รบกวนสอบถามขั้นตอนการขอจำหน่ายเครื่องจักรแบบมีภาระภาษีค่ะ ว่ามีขั้นตอนอย่างไรบ้าง? ขอบคุณมากค่ะ

ADMIN เมื่อ 7 กค 65, 09:19 น. #3

ขั้นตอนคือ

1. ยื่นขอจำหน่ายเครื่องจักรโดยมีภาระภาษี

2. คีย์ข้อมูลเลขที่หนังสืออนุมัติยกเว้นภาษี และเลขที่ใบขนขาเข้า

3. เลือกเครื่องจักรและจำนวนที่จะขอจำหน่าย

4. หากเป็นเครื่องจักรหลัก และทำให้กำลังการผลิตลดลงมากกว่า 20% ต้องแนบหลักฐานการซื้อเครื่องจักรมาทดแทน / หรือต้องขอลดขนาดโครงการก่อน

5. เมื่อได้รับอนุมัติ ให้ติดต่อกรมศุลกากรเพื่อชำระภาษี

6. จากนั้นยื่นขอตัดบัญชีเครื่องจักรที่ชำระภาษี โดยคีย์ข้อมูล/แนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบเสร็จชำระภาษี ฯ ในระบบ emt ครับ

NTCCC เมื่อ 7 กค 65, 16:55 น. #4
แก้ไขโดย NTCCC เมื่อ 7 กค 65, 16:55 น.

จากข้อความตามประกาศที่ว่า เมื่อทำการจำหน่ายเครื่องจักรแล้ว จะต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริมจากข้อความนี้อยากสอบถามว่าคำนวณอย่างไร?

ยกตัวอย่างเช่น บรษัท ได้รับส่งเสริมเป็นระยะเวลา5ปี กำลังการผลิตสูงสุด 100,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งทำบัญชีเครื่องจักรไว้ว่าสามารถนำเข้าเครื่องจักร A ได้ 100 เครื่อง

หลังจากได้รับการอนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักร ได้ทำการนำเข้าเครื่องจักร มาเป็นจำนวน 20 เครื่องภายในระยะเวลา 1 ปีต่อมาอยากจะทำจำหน่ายเครื่องจักร แบบมีภาระภาษีออกจากโครงการจำนวน 2 เครื่อง และจะยังไม่มีเครื่องเข้ามาทดแทน 

จากตรงนี้บริษัทสามารถทำจำหน่ายได้หรือไม่คะ? ถ้าได้อยากทราบว่าจะต้องคำนวณอย่างไรที่ว่าต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริมคะ?

จากข้อความตามประกาศที่ว่า เมื่อทำการจำหน่ายเครื่องจักรแล้ว จะต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริมจากข้อความนี้อยากสอบถามว่าคำนวณอย่างไร?

ยกตัวอย่างเช่น บรษัท ได้รับส่งเสริมเป็นระยะเวลา5ปี กำลังการผลิตสูงสุด 100,000 ชิ้นต่อปี ซึ่งทำบัญชีเครื่องจักรไว้ว่าสามารถนำเข้าเครื่องจักร A ได้ 100 เครื่อง

หลังจากได้รับการอนุมัติบัญชีรายการเครื่องจักร ได้ทำการนำเข้าเครื่องจักร มาเป็นจำนวน 20 เครื่องภายในระยะเวลา 1 ปีต่อมาอยากจะทำจำหน่ายเครื่องจักร แบบมีภาระภาษีออกจากโครงการจำนวน 2 เครื่อง และจะยังไม่มีเครื่องเข้ามาทดแทน 

จากตรงนี้บริษัทสามารถทำจำหน่ายได้หรือไม่คะ? ถ้าได้อยากทราบว่าจะต้องคำนวณอย่างไรที่ว่าต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริมคะ?

ADMIN เมื่อ 8 กค 65, 12:43 น. #5

บริษัทได้รับอนุมัติบัญชีเครื่องจักร A จำนวน 100 เครื่อง เป็นเครื่องจักรหลักของโครงการ

ปัจจุบันนำเข้ามาแล้ว 20 เครื่อง แต่จะขอจำหน่าย 2 เครื่อง

1. เครื่องที่จะขอจำหน่าย 2 เครื่อง จะต้องชำระภาระภาษีตามสภาพ ณ วันที่อนุญาตให้จำหน่าย

2. บริษัทสามารถชี้แจงได้ว่า เป็นการจำหน่ายเพียง 2 เครื่อง จากจำนวน 100 เครื่อง ที่มีแผนจะลงทุน

จึงทำให้กำลังผลิตลดลงเพียง 2 % ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องลดขนาดโครงการ

3. และหากบริษัทมีแผนจะซื้อเครื่องจักรเข้ามาทดแทนในส่วนที่จำหน่ายออกไป

ก็สามารถขอแก้ไขบัญชีเครื่องจักร เพื่อเพิ่มจำนวนเครื่องจักร A จาก 100 เครื่อง เป็น 102 เครื่อง ได้ครับ

NTCCC เมื่อ 12 กค 65, 11:30 น. #6

การทำจำหน่ายแบบไม่มีภาระภาษี เมื่อได้รับอนุมัติให้จำหน่ายแล้ว ยังสามารถใช้งานต่อได้หรือไม่คะ

กรณีได้ทำการตรวจเปิดดำเนินการไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

ADMIN เมื่อ 12 กค 65, 13:14 น. #7

การจำหน่ายเครื่องจักรตามความหมายของ BOI

คือ บริษัทไม่มีความประสงค์จะใช้เครื่องจักรนั้น ในโครงการที่ได้รับส่งเสริมอีกต่อไป

BOI จึงอนุญาตให้จำหน่ายออกจากโครงการที่ได้รับส่งเสริมนั้นได้

แต่บริษัทอาจจะยังถือครองเครื่องจักรนั้นต่อไปก็ได้ เช่น อาจเพื่อนำไปใช้ในกิจการที่ไม่ได้รับส่งเสริม เป็นต้น


หากบริษัทได้รับอนุญาตจำหน่ายเครื่องจักรโดยไม่มีภาระภาษี

ให้ดำเนินการตัดรายการเครื่องจักรนั้น ออกจากบัญชีสินทรัพย์ของโครงการที่ได้รับส่งเสริมนั้น

โดยผลผลิตที่เกิดจากเครื่องจักรนั้น จะไม่นับเป็นผลผลิตตามโครงการที่ได้รับส่งเสริม


หากบริษัทต้องการใช้เครื่องจักรในโครงการที่ได้รับส่งเสริมต่อไป

ต้องไม่ใช่เป็นการยื่นขอจำหน่ายเครื่องจักร

แต่จะเป็นการยื่นขอตัดบัญชีภาษีเครื่องจักรที่นำเข้ามาเกินกว่า 5 ปี ครับ

NTCCC เมื่อ 17 มค 66, 14:50 น. #8
แก้ไขโดย NTCCC เมื่อ 17 มค 66, 14:51 น.

กรณีที่มีการรวมบัตรเนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อ2554 โดยเลขที่บัตรจะเป็นเลข 50XX นั้น ซึ่ง บริษัท ทำการรวม2บัตรเข้าด้วยกัน จึงขอสอบถามว่า ถ้าเรามีการทำเรื่องขอจำหน่ายแบบไม่มีภาระภาษี จะต้องอ้างอิงในการทำคำร้องเป็นการจำหน่ายภายใต้บัตร 50XX ใช่หรือไม่คะ?

ADMIN เมื่อ 18 มค 66, 13:09 น. #9

กรณีมีการรวมบัตร A และบัตร B เป็นบัตร C

ระบบ eMT จะไม่ได้ย้ายข้อมูลของเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิตามบัตร A และ B ให้มารวมอยู่ในบัตร C

ดังนั้น หากต้องการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิของบัตรเก่า (บัตร A และ B) เช่น ขอจำหน่าย ขอตัดบัญชี ฯลฯ

ให้ยื่นคำร้องภายใต้บัตรใหม่ (บัตร C) โดยให้เลือกเป็น "เครื่องจักรนอกระบบ"

จากนั้นแนบเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตามเรื่องนั้นๆ เช่น สำเนาใบขนสินค้าขาเข้า ฯลฯ

โดยในหมายเหตุ ให้ระบุว่าเป็นเครื่องจักรที่นำเข้าโดยใช้สิทธิของบัตร A (หรือ B) ซึ่งได้รับอนุญาตให้รวมโครงการเป็นบัตร C ครับ

thun151 เมื่อ 29 พย 66, 13:35 น. #10

บริษัทต้องการขายเครื่องจักรนำเข้าเกิน 5 ปีที่ไม่ใช้งานแล้ว (ตัดบัญชีเครื่องจักรเกิน 5 ปีแล้ว) จึงเรียนสอบถามดังนี้

1.บริษัทต้องการขายเครื่องจักรนำเข้าเกิน 5 ปีที่ไม่ใช้งานแล้ว ควรจะยื่นเรื่องในระบบเป็นหัวข้อใด / ขอจำหน่ายเครื่องจักรใช่หรือไม่

2.บริษัทต้องการขายเครื่องจักรนำเข้าเกิน 5 ปีที่ไม่ใช้งานแล้ว สามารถขายแบบเศษซากได้หรือไม่ ควรจะยื่นเรื่องในระบบเป็นหัวข้อใด / สามารถยื่นขอทำลายเครื่องได้หรือไม่

3.ตามรายการที่กล่าวมาบริษัทสามารถขายให้ผู้ซื้อในไทยได้หรือไม่ 

4.กรณีที่ขายให้ผู้ซื้อในไทยทั้งแบบจำหน่าย และทำลายเป็นเศษซากแล้วขาย ต้องมีเอกสารอะไรเพื่อนำไปปรับยอดกับ IC หรือไม่

5.ถ้าขายเครื่องจักรแล้ว ทำให้กำลังผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่า 80% หรือไม่มีการซื้อมาทดแทน จะต้องขอลดกำลังผลิตหรือแก้ไขกรรมวิธีการผลิต ให้สอดคล้องกับเครื่องจักรที่เหลืออยู่จริง ดังนั้นควรทำก่อนขาย หรือถ้ามีความจำเป็นต้องขายด่วน สามารถยื่นที่หลังได้ไหมค่ะ

 

ขอบคุณค่ะ

ADMIN เมื่อ 29 พย 66, 17:55 น. #11

ตอบคำถามดังนี้

1. หากต้องการจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ

ให้ยื่นขอจำหน่ายเครื่องจักร

- หากนำเข้ายังไม่ครบ 5 ปี จะมีภาระภาษีตามสภาพ ณ วันที่อนุญาตให้จำหน่าย

- หากนำเข้ามาครบ 5 ปีแล้ว จะไม่มีภาระภาษี

2. หากต้องการทำลาย (กรณีนำเข้ามายังไม่ครบ 5 ปี)

- ให้ยื่นขอทำลายเครื่องจักร
เมื่อทำลายตามที่ได้รับอนุมัติ ให้ยื่นหลักฐานเพื่อขอตัดบัญชีเครื่องจักร
โดยเศษซากหลังการทำลาย สามารถจำหน่ายได้โดยไม่มีภาะภาษี 

3. การขอจำหน่ายเครื่องจักร ตามข้อ 1 หมายถึงการให้จำหน่ายในประเทศ

4. เอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ในแต่ละเรื่อง จะแตกต่างกัน

ควรระบุเคสให้ชัดเจน เพื่อจะได้ตอบให้ตรงประเด็นได้มากกว่า

5. การจำหน่าย/ทำลายเครื่องจักร ที่จะทำให้กำลังผลิตลดลงกว่า 20%

ต้องแสดงหลักฐานการจะซื้อเครื่องจักรทดแทน เช่น ใบเสนอราคา ใบสั่งซื้อ

หากไม่มีแผนการซื้อเครื่องจักรทดแทนที่ชัดเจน จะต้องยื่นขอลดกำลังผลิตของโครงการเดิมด้วย ครับ

STEC เมื่อ 5 กพ 67, 12:38 น. #12

รบกวนสอบถามการจำหน่ายเครื่องจักร นำเข้าเกิน 5 ปี ดังนี้ค่ะ (บริษัทฯได้รับอนุมัติการเปิดดำเนินการเรียบร้อยแล้ว)

1. ควรยื่นตัดบัญชีรายการเครื่องจักรก่อน หรือสามารถยื่นจำหน่ายเครื่องจักรได้เลย

2.เครื่องจักรที่ต้องการจำหน่ายคือเครื่องจักรหลักอยู่ในกระบวนการที่ 4 มีทั้งหมด 9 เครื่อง จำหน่าย 1 เครื่อง ซึ่งจำหน่ายแล้ว กำลังการผลิตลดลง 10% ทางบริษัทไม่มีแพลนที่จะซื้อเครื่องใหม่มาทดแทน จะสามารถจำหน่ายได้หรือไม่

3.ในกรณีที่บริษัทมีแพลนจะขอเพิ่มกำลังการผลิตจากวันทำงาน ควรจะเพิ่มก่อนหรือหลังจากการจำหน่ายเครื่องจักร

4.ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานการสั่งซื้อจากผู้ซื้อ สามารถใช้เอกสารอื่นแทนได้หรือไม่

เพิ่มเติม......หากต้องการขายเครื่องจักรในกระบวนการอื่น สามารถทำได้หรือไม่อย่างไร ในการคำนวนกำลังการผลิตตอนเปิดดำเนินการ คำนวนจากกระบวนการสุดท้ายคือกระบวนการที่ 4 ค่ะ

ขอบคุณค่ะ

ADMIN เมื่อ 5 กพ 67, 14:40 น. #13

ตอบคำถามดังนี้

1. เครื่องจักรที่นำเข้าเกิน 5 ปี สามารถยื่นขอจำหน่ายโดยไม่ต้องยื่นขอตัดบัญชีก่อน
เนื่องจากในการพิจารณาอนุญาตให้จำหน่าย สามารถพิจารณาการพ้นจากภาระภาษีไปพร้อมกันได้

2. หากการจำหน่ายเครื่องจักร จะทำให้กำลังผลิตลดลง 10% โดยไม่ซื้อเครื่องจักรมาทดแทน
สามารถอนุญาตให้จำหน่ายได้ โดยไม่ต้องปรับลดกำลังผลิตในบัตรส่งเสริม

3. การขอเพิ่มกำลังผลิตโดยเพิ่มเวลาทำงาน กับการขอจำหน่ายเครื่องจักรที่ทำให้กำลังผลิตลดลง 10% จะยื่นเรื่องใดก่อนก็ได้
เนื่องจากไม่ทำให้ผลที่ได้รับแตกต่างกัน

4. กรณีที่ไม่มีหลักฐานการสั่งซื้อจากผู้ซื้อ สามารถใช้เอกสารอื่นแทนได้หรือไม่
คงจะหมายถึง การแสดงหลักฐานว่าจะมีการซื้อเครื่องจักรมาทดแทนกรณีขอจำหน่ายเครื่องจักร
หากยังไม่มีหลักฐานการสั่งซื้อเครื่องจักร จะใช้ใบเสนอราคาจากผู้จำหน่ายเครื่องจักรก็ได้

5. การขอจำหน่ายเครื่องจักร
หากเป็นเครื่องจักรที่มีกำลังผลิต (แม้จะไม่ใช่เครื่องจักรที่คำนวณกำลังผลิตของโครงการก็ตาม)
ต้องแสดงข้อมูลว่ากำลังผลิตของโครงการ ไม่ลดลงมากกว่า 20% ของกำลังผลิตตามบัตรส่งเสริม ด้วย

เช่น เครื่องจักร A เป็นเครื่องจักรที่ใช้คำนวณกำลังผลิตของโครงการ
แต่หากจำหน่ายเครื่องจักร B อาจทำให้กำลังผลิตของโครงการลดลงเกินกว่า 20% ก็ได้ ครับ

STEC เมื่อ 27 กพ 67, 15:44 น. #14

ในข้อกำหนดตามประกาศที่ว่า เมื่อทำการจำหน่ายเครื่องจักรแล้ว จะต้องไม่ทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของโครงการลดลงเหลือต่ำกว่าร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตที่ได้รับการส่งเสริม นั่น ความหมายคืออย่างไรคะ และมีคำถามดังต่อไปนี้ค่ะ

ในกรณีที่ขายเครื่องจักรแล้วกำลังการผลิตลดลงไม่ถึง 20% ทางบริษัทสามารถผลิตและจำหน่ายได้ในปริมาณเดิมที่ได้รับอนุมัติ หรือปริมาณที่ลดลงหลังจากขายเครื่องจักร

ขอบคุณค่ะ

ADMIN เมื่อ 27 กพ 67, 17:51 น. #15

หากบริษัทได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องจักร โดยไม่ต้องปรับลดกำลังผลิตในบัตรส่งเสริม

หมายความว่า บริษัทจะยังคงผลิตจำหน่ายได้ตามกำลังผลิตเดิมที่ระบุในบัตรส่งเสริม และตามเวลาทำงานที่ระบุไว้เดิม


ยกตัวอย่างเช่น

เดิมบริษัทมีกำลังผลิตตามบัตรส่งเสริม 10,000,000 ชิ้น โดยมีเครื่องจักร 10 เครื่อง

หากต่อมาได้รับอนุญาตให้จำหน่ายเครื่องจักร 2 เครื่อง เหลือเครื่องจักร 8 เครื่อง ทำให้กำลังผลิตจากการคำนวณเป็น 8,000,000 ชิ้น

กรณีนี้ กำลังผลิตในบัตรส่งเสริม จะยังคงเป็น 10,000,000 ชิ้น ตามเดิม

ดังนั้น บริษัทสามารถใช้เครื่องจักร 8 เครื่องที่เหลือ ผลิตสินค้า ตามเวลาทำงานที่ระบุในบัตรส่งเสริม เกินกว่า 8,000,000 ชิ้น แต่ไม่เกืน 10,000,000 ชิ้น ได้ ครับ